RESTIV มีผลช่วยลดความมันบนหนังศีรษะได้ด้วย จึงเป็นผลดีในการช่วยลดการหลุดร่วงของเส้นผม ที่เกิดจากหนังศีรษะมันได้

สามารถใช้ RESTIV ร่วมกับการรับประทานยาได้ เนื่องจาก RESTIV จะออกฤทธิ์เฉพาะที่บริเวณหนังศีรษะเท่านั้น ไม่ถูกดูดซึมเข้าสู่ระบบของร่างกาย จึงไม่กระทบต่อการรับประทานยา

สามารถใช้ร่วมกันได้ โดยเน้นให้ทา RESTIV ลงบนหนังศีรษะบริเวณที่พบปัญหาผมบาง และใช้ RESTIV ก่อน จากนั้นใช้ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ทีหลัง เพื่อให้เนื้อโฟมได้ถูกดูดซึมเข้าสู่บริเวณที่ต้องการได้อย่างทั่วถึง

แนะนำให้ใช้ RESTIV เพื่อทาบนหนังศีรษะตรงบริเวณที่มีปัญหาก่อนผลิตภัณฑ์อื่นๆ เพื่อให้เนื้อโฟมได้ดูดซึมเข้าสู่บริเวณที่ต้องการได้อย่างทั่วถึงเสียก่อน จากนั้นจึงค่อยใช้ผลิตภัณฑ์ตกแต่งทรงผมตามปกติ หรืออาจใช้ RESTIV วันละ 1 ครั้งก่อนนอนก็ได้ เพื่อตัดปัญหาเรื่องการจัดแต่งทรงในตอนเช้าของวัน

RESTIV สามารถใช้ได้ทั้งขณะผมเปียกและผมแห้ง และไม่ทำให้ผมมันกว่าปกติ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องสระผมทุกวัน

RESTIV ผ่านการทดสอบการแพ้แล้ว ดังนั้นโอกาสที่ผู้ใช้แล้วเกิดแพ้นั้นน้อยมาก

ภาวะผมบาง หลุดร่วงง่ายในช่วงระยะการตั้งครรภ์หรือหลังคลอดของผู้หญิงนั้น เป็นเพียงอาการที่พบชั่วครั้งคราว หากพ้นระยะนี้แล้ว ก็จะกลับมาสู่สภาวะปกติ แต่หากต้องการใช้ RESTIV ในช่วงระยะเวลาดังกล่าว ก็สามารถใช้ได้อย่างปลอดภัย เนื่องจาก RESTIV ไม่ดูดซึมเข้าสู่ระบบของร่างกาย

ภาวะผมหลุดร่วงจากการได้รับยาเคมีบำบัด เกิดจากตัวยาเคมีบำบัดระงับการเจริญของเซลล์อย่างรุนแรง ดังนั้นการใช้ RESTIV ในช่วงระยะดังกล่าว อาจไม่ได้ผล หรือได้ผลน้อยมาก ขอแนะนำให้ใช้ RESTIV หลังจากหยุดให้ยาเคมีบำบัด เพื่อช่วยเร่งฟื้นฟูสภาพหนังศีรษะ เร่งการเจริญของเส้นผมใหม่ และทำให้เส้นผมแข็งแรง กลับสู่สภาพปกติได้เร็วขึ้น

จากผลการวิจัย กลุ่มผู้ทดลองใช้ 109 ท่าน พึงพอใจกับผลของ RESTIV ที่ช่วยลดการหลุดร่วง และเร่งการสร้างผมใหม่ ใน 3 สัปดาห์หลังการใช้
อธิบายเพิ่มเติม ผลการใช้ 2 สัปดาห์ในผู้ใช้บางราย จะสังเกตพบว่า เส้นผมร่วงน้อยลง ขณะอาบน้ำ สระผม หรือเส้นผมที่ติดอยู่บนหมอนน้อยลง ผลการใช้ RESTIV ที่มีส่วนช่วยลดการหลุดร่วงของเส้นผม สามารถสังเกตได้ชัดเจนและเร็วกว่าการเร่งสร้างผมใหม่ในช่วง 2 สัปดาห์แรก