ทานยาคุมอย่างไรให้ถูกต้องและปลอดภัย?
ในปัจจุบันการคุมกำเนิดที่หลากหลาย สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่ไม่แน่นอนของคนสมัยใหม่ และยังช่วยวางแผนกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างดี แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่สงสัยในประสิทธิภาพ และผลข้างเคียงของยาคุมกำเนิด ซึ่งอาจเป็นเพราะรายละเอียดของยาคุม ไม่เคยถูกพูดถึงอย่างเปิดอกในสื่อใดๆ วันนี้ไบโอฟาร์มขออาสาตอบข้อสงสัย เกี่ยวกับการทานยาคุมกำเนิดอย่างถูกต้องและปลอดภัย เพื่อให้ทุกคนสามารถควบคุมและวางแผนชีวิตได้อย่างสบายใจและราบรื่นค่ะ
สเต็ปที่ 1
เช็กตัวเองก่อนใช้ยาคุมกำเนิด
คุณต้องมั่นใจว่าตนเอง‘ไม่’อยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่ออาการข้างเคียงที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพดังนี้ค่ะ
- ผู้ที่ตั้งครรภ์
- ผู้ที่ให้นมบุตร (หลังคลอดภายใน 6 สัปดาห์)
- ผู้ที่มีน้ำหนักเยอะ หรือมีค่า BMI มากกว่า 30 จะเสี่ยงต่อโรคลิ่มเลือดอุดตัน
- ผู้ที่อายุมากกว่า 40 ปี หากจำเป็นต้องใช้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจร่างกายก่อน แต่หากอายุมากกว่า 35 ปี แล้วสูบบุหรี จะไม่แนะนำให้ใช้ยาคุมกำเนิดค่ะ
- ผู้ที่เป็นมะเร็งเต้านม
- ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ที่มีภาวะแทรกซ้อนทางไต ตา ระบบประสาท หรือหลอดเลือดต่างๆ หรือผู้ป่วยโรคเบาหวานที่เป็นมานานกว่า 20 ปี
- ผู้ที่กำลังเป็น หรือเคยเป็นโรคลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดที่บริเวณขา หรือปอด, โรคหลอดเลือดสมอง, โรคหัวใจขาดเลือด, โรคที่เกี่ยวกับลิ้นหัวใจ
- ผู้ที่กำลังเป็น หรือเคยเป็นเนื้องอก หรือมะเร็งตับ และโรคตับแข็งในระยะรุนแรง
- ผู้ที่เป็นโรคไมเกรน ชนิดที่มองเห็นแสงสว่างวาบ มองภาพไม่ชัด หรือผู้ที่เป็นโรคไมเกรน ชนิดไม่เห็นแสงสว่างวาบที่อายุมากกว่า 35 ปี
- ผู้ที่มีภาวะความดันโลหิตสูงแบบควบคุมไม่ได้ (ค่าบนสูงกว่า 160 มิลลิเมตรปรอท หรือความดันโลหิตค่าล่างสูงกว่า 90 มิลลิเมตรปรอท)
- ผู้ที่ผ่าตัดใหญ่ หรือผ่าตัดบริเวณขา ที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เป็นเวลานาน
สเต็ปที่ 2
เรียนรู้วิธีคุมกำเนิดที่ถูกต้อง
โดยหลักๆ แล้ว ยาคุมแบบปกติมีหลักการทานยาที่ไม่ค่อยแตกต่างกันนัก โดยลิสท์ให้จำง่ายๆ ดังนี้
- อ่านฉลากกำกับยาทุกครั้ง เพื่อศึกษาวิธีทานของยานั้นๆ และข้อควรระวังอย่างละเอียด
- การเริ่มทานยาเม็ดแรก ให้เริ่มภายใน 5 วันแรกของรอบประจำเดือน เช่น ประจำเดือนมาวันที่ 1 ก็เริ่มทานได้ตั้งแต่วันที่ 1 เลย หรือ วันที่ 2, 3, 4 และวันที่ 5 ไม่แนะนำให้ทานยาคุมกำเนิดเฉพาะวันที่มีการร่วมเพศ เพราะเสี่ยงตั้งครรภ์สูง นอกจากยาจะไม่มีผลแล้ว ยังอาจมีเลือดออกกะปริบกะปรอยด้วย ส่วนการเริ่มทานยาคุมกำเนิดหลัง 5 วันแรกของการมีประจำเดือนก็สามารถทำได้ แต่ไม่แนะนำค่ะ
- ทานยาวันละ 1 เม็ด โดยทานตามวันที่ระบุบนแผง และชนิดของยา หรือหากไม่ระบุ ก็สามารถเริ่มทานได้เลย
- ทานยาทุกวัน ในเวลาใกล้เคียงกันในแต่ละวัน อาจตั้งนาฬิกาปลุกสำหรับทานยาคุมโดยเฉพาะ
- หากทานแล้วอาเจียนหลังทานภายใน 3 ชั่วโมง ให้ทานยาซ้ำ เพราะระยะการดูดซึมของยาคือ 3 ชั่วโมง
สเต็ปที่ 3
อย่าละเลยการคุมกำเนิดอย่างปลอดภัย
- เมื่อเริ่มทานยาคุมกำเนิดเม็ดแรก ควรใช้วิธีคุมกำเนิดอย่างอื่นร่วมด้วยเสมอ อย่างน้อย 7 วันหลังจากทานยาเม็ดแรก
- หากลืมทานยาคุมกำเนิด มีวิธีปฏิบัติดังนี้
- ลืมทาน 1 เม็ด ทานชดเชยทันทีที่นึกได้ หากนึกได้วันถัดไป ในเวลาเดิมที่ทาน ให้ทานพร้อมกัน 2 เม็ดได้เลย โดยไม่ต้องใช้ยาคุมฉุกเฉิน หรือ วิธีคุมกำเนิดวิธีอื่นร่วม เช่น ถุงยางอนามัย
- ลืมทาน 2 เม็ด ทานชดเชยทันทีที่นึกได้ หากนึกได้วันถัดไป ในเวลาเดิมที่ทาน ให้ทานพร้อมกัน 2 เม็ดโดยทิ้งยา 1 เม็ด ของวันแรกที่ลืมไปเลย แต่จำเป็นต้องใช้วิธีคุมกำเนิดวิธีอื่นร่วมด้วยเช่น ถุงยางอนามัย พร้อมกับทานยาคุมให้ตรงเวลาอย่างเคร่งครัด นาน 7 วัน หากมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่ลืมทานพอดี อาจจะมีความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ ควรพิจารณาการใช้ยาคุมฉุกเฉิน
- หากลืมทานมากกว่า 2 เม็ด
จะถือว่าฤทธิ์คุมกำเนิดหายทันที ควรเริ่มแผงใหม่ พร้อมใช้ถุงยางอนามัยควบคู่อย่างน้อย 7 วันค่ะ
ติดตามเคล็ดลับดีๆเกี่ยวกับสุขภาพและไลฟ์สไตล์ได้ที่ https://www.facebook.com/healthyclub.by.biopharm/
ปรึกษาปัญหาสุขภาพกับ Biopharm ทาง Line Official : @biopharm