พักผ่อน ยังไง ให้สบายกาย สบายใจ สบายตา
” พักผ่อน ”
ทั้งที ต้องพักให้สบายทั้งกายและใจ
การ พักผ่อน นั้นเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกคน ถึงแม้ว่าแต่ละช่วงวัยจะมีความต้องการในการพักผ่อนที่แตกต่างกัน แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกๆคนก็จำเป็นช่วงเวลาที่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ เพื่อให้ร่างกายได้พัก ฟื้นฟู พร้อมที่จะทำกิจกรรมอื่นๆต่อไป โดยการพักผ่อน ไม่จำเป็นต้องหมายถึงการนอนหลับเพียงอย่างเดียวนะคะ คุณสามารถพักผ่อนได้ด้วยการใช้ช่วงเวลาดีๆ ผ่อนคลาย ทำให้ร่างกายและจิดตใจรู้สึกสบาย
แน่นอนว่าไม่ใช่แค่ร่างกายนะคะที่ต้องการการพักผ่อน แต่จิตใจก็มีผลต่อสุขภาพโดยรวม ต้องการการพักผ่อนเช่าเดียวกัน ซึ่งการพักผ่อนจิตใจ ทำใจให้สบายนั้นเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่มักมองข้ามไป วันนี้เราจะพามาดูวิธีพักผ่อนที่ทำให้คุณได้พักทั้งกายและใจค่ะ
1. ปล่อยใจให้สบาย ทิ้งเรื่องงานไว้ที่ออฟฟิศ
การที่คุณจะพักผ่อนได้ ไม่ใช่การหอบพาร่างหายไปในที่สบายๆ แต่ต้องทิ้งเรื่องงาน เรื่องไม่สบายใจไว้ข้างหลังด้วย เพราะฉะนั้นสิ่งที่คุณจะพาไป พักผ่อน ก็คือ ร่างกายบวกกับจิตใจที่สบาย ไม่เครียด ถึงจะเรียกได้ว่าเป็นการพักผ่อนให้สบายทั้งกายและใจที่แท้จริง
หลายคนอาจรู้สึกว่างานเป็นส่วนสำคัญที่สุดในชีวิตช่วงหนึ่งๆ แต่ความจริงแล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดอาจเป็น สุขภาพร่างกาย และสุขภาพจิตใจที่ดีต่างหาก เพราะถ้าหากคุณไม่มีร่างกายที่แข็งแรงและจิตใจที่พร้อมทำงาน คุณก็อาจไม่สามารถโฟกัสกับงานที่ทำได้เลย ดังนั้น การแบ่งเวลาที่เหมาะสม และเห็นความสำคัญของการพักผ่อน เป็นส่วนที่สำคัญของการทำงานเช่นเดียวกับการลงมือทำเลยล่ะ
วิธีง่ายๆ คือ คุณอาจแบ่งเวลาที่แน่นอน หรือกำหนดกิจวัตรประจำวัน ประจำสัปดาห์ ประจำเดือนไว้ว่า คุณจะต้องหาเวลาเพื่อพักผ่อนทั้งหมดกี่ครั้งใน 1 สัปดาห์ เพื่อให้มั่นใจได้ว่า อย่างน้อยๆคุณจะมีโอกาสได้พักชาร์จพลังบ้างในรอบ 7 วันที่ทำงานมาอย่างหนัก ควรมีสัก 1 วันที่คุณได้พักผ่อน ให้รางวัลตัวเอง และให้ร่างกายกับสภาพจิตใจได้ฟื้นฟูบ้าง
2. การ พักผ่อน โดยการนอนหลับ
การนอนหลับ เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆในการมีสุขภาพที่ดี โดยมูลนิธิการนอนหลับแห่งชาติ ในสหรัฐอเมริกาเคยให้ข้อมูลเกี่ยวกับการนอนหลับที่เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัยไว้ ดังนี้
- เด็กแรกเกิด (อายุ 0-3 เดือน) ควรนอน 14-17 ชั่วโมงต่อวัน
- เด็กทารก (อายุ 4-11เดือน) ควรนอน 12-15 ชั่วโมง
- เด็ก (อายุ 1-2 ปปี) ควรนอน 11-14 ชั่วโมง
- วัยอนุบาล (3-5 ปี) ควรนอน 10-13 ชั่วโมง
- วัยประถม (6-13 ปี) ควรนอน 9-11 ชั่วโมง
- วัยมัธยม (14-17 ปี) ควรนอน 8-10 ชั่วโมง
- วัยรุ่น (18-25 ปี): ควรนอน 7-9 ชั่วโมง
- วัยทำงาน (26-64 ปี): ควรนอน 7-9 ชั่วโมง เท่ากับตอนวัยรุ่น
- วัยชรา (65 ปีขึ้นไป) ควรนอน 7-8 ชั่วโมง
นอนให้ครบชั่วโมงยังไม่พอ เพราะต้องสำรวจด้วยว่าการนอนของคุณนั้นมีประสิทธิภาพมากพอหรือไม่ ? การนอนที่มีประสิทธิภาพ คือการนอนหลับสนิท ซึ่งมาจากหลายปัจจัย ที่เห็นได้อย่างชัดเจนก็คงหนีไม่พ้นเรื่องแสงและเสียงที่รบกวนการนอนนั่นเอง สภาพแวดล้อมในการนอนมีความสำคัญอย่างมากที่จะช่วยให้คุณนอนหลับได้อย่างสนิท บางคนอาจรู้สึกสงสัยที่ตัวเองนอนมากถึง 8 ชั่วโมงแล้ว แต่ก็ยังตื่นขึ้นมาพร้อมความรู้สึกเหนื่อยเพลียเหมือนพักผ่อนไม่เพียงพอ ลองเช็คดูว่าคุณนอนในที่ๆยังมีแสง เช่น เปิดไฟ เปิดโทรทัศน์ทิ้งไว้หรือไม่ ถึงแม้คุณจะรู้สึกว่าตัวเองหลับแล้วในขณะที่โทรทัศน์ยังเปิด แต่จริงๆแล้วสมองของคุณอาจยังไม่ได้พักผ่อนเลย เพราะมีการรบกวนจากแสงและเสียงจากโทรทัศน์นั่นเอง ดังนั้น ก่อนที่จะตั้งใจนอนให้ครบชั่วโมงที่เหมาะกับตัวเอง อย่าลืมที่จะปรับเปลี่ยนสภาพของสถานที่นอนให้เหมาะสมด้วย เช่น นอนในห้องมืดสนิท และเงียบพอที่จะให้คุณนอนหลับสนิทได้จริงๆ
3. กินดีทุกมื้อ สารอาหารต้องเต็มทุกคำ
นอกจากการนอนแล้ว บางคนอาจรู้สึกว่าได้พักผ่อนเมื่อได้รับประทานอาหารที่ชอบ ซึ่งก็ไม่ได้แปลกอะไร เพราะคนจำนวนไม่น้อยก็เอ่ยปากว่า “มีความสุข” เมื่อได้รับประทานของที่ชอบ ดังนั้น เมื่อได้โอกาสพักผ่อนแล้ว ก็อย่าลืมที่จะหาของโปรดมาเติมเต็มความสุขกันด้วย แต่อย่าลืมว่า ของโปรดในวันพักผ่อนจะดีได้ถ้าเป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายด้วยนะคะ
นอกจากอาหารมื้อหลักแล้ว ลองเพิ่มน้ำผลไม้หรือเมนูผลไม้เพิ่มความสดชื่นให้วันหยุดพักผ่อนมีสีสันขึ้นมา แถมยังได้ประโยชน์มากมายจากผลไม้นานาชนิด รับวิตามินจากธรรมชาติให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น
4. ร่างกายไปพักร้อน ใส่แว่นกันแดดให้น้องตาด้วย
ถ้าคุณเป็นหนึ่งคนที่ชอบไปพักร้อนรับซัมเมอร์ เจอแดดอันร้อนแรง อย่าลืมที่จะดูแลดวงตาของคุณ ด้วยการสวมแว่นกันแดดด้วยนะคะ เพราะนอกจากรังสียูวีจะทำร้ายผิวของคุณได้แล้ว มันก็ทำร้ายดวงตาของคุณได้เช่นกัน ดังนั้น ควรถนอมสายตา เพื่อให้ดวงตารู้สึกสบาย ไม่ต้องเผชิญแสงแดดที่ทำร้าย
5. ใช้ตาหนัก พักซะหน่อย
8 ชั่วโมงการทำงานของทุกคน ในทุกๆวัน มีอวัยวะหนึ่งที่จำเป็นต้องทำงานอย่างหนักตลอดเวลา คือ ดวงตา ทั้งอ่านหนังสือ จ้องคอมพิวเตอร์ ไหนจะต้องเล่นโซเชี่ยลผ่านอุปกรณ์สมาร์ทโฟนต่างๆอีก นับรวมๆกันแล้ว ดวงตาต้องรับบทหนักมากกว่าวันละ 10 ชั่วโมงแน่นอน ดังนั้น พักร่างกาย พักใจแล้ว ก็อย่าลืมที่จะหาวิธีพักสายตาอยู่เสมอ โดยการพักสายตาง่ายๆที่ไม่ใช่การนอนหลับเพียงอย่างเดียว ก็มีการมองไปพื้นที่สัเขียวสบายตา เช่น ต้นไม้ สวน ทุ่งหญ้า จะช่วยทำให้สายตาเกร็งน้อยลง ทำให้รู้สึกสบายตามากขึ้น หรือจะดูแลเป็นพิเศษขึ้นมาอีกนิดโดยการใช้เจลประคบตาที่มีความเย็นเล็กน้อยประคบที่ดวงตา จะทำให้คุณรู้สึกได้ถึงความสบายและผ่อนคลายได้ไม่ยาก
ติดตามเคล็ดลับดีๆเกี่ยวกับสุขภาพและไลฟ์สไตล์ได้ที่ https://www.facebook.com/healthyclub.by.biopharm/
ปรึกษาปัญหาสุขภาพกับ Biopharm ทาง Line Official : @biopharm