เช็คด่วน!! คุณ ขี้ลืม แค่ไหน ทำยังไงให้ความจำดี
ใครเคยเป็นแบบนี้บ้าง ?? เช็คด่วน !!
วางของไว้ไหน จำไม่เคยได้
เมื่อเช้ากินอะไรเข้าไปก็ลืมซะแล้ว
จำทางผิด ชีวิตเปลี่ยน
จะลืมอะไรก็ได้ แต่ถ้าลืมที่จอดรถ จะกลับบ้านไม่ได้ !!
เชื่อว่าหลายๆคนคงเจอเหตุการณ์แบบนี้อย่างน้อย 1 ข้อเป็นประจำ!! ซึ่งก็ทำให้ชีวิตของคุณต้องสะดุดจากการ ขี้หลง ขี้ลืม แบบนี้ ซึ่งนอกจากการพยายามมีสติอยู่ตลอดเวลาแล้ว การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อการบำรุงสมองก็สมารถช่วยได้เช่นกัน
สารอาหารบำรุงสมองและระบบประสาท
น้ำมันปลา (Fish Oil)
น้ำมันปลา เป็นสารอาหารประเภทไขมัน ซึ่งหลายคนอาจะสงสัยว่า แล้วน้ำมันจะดีต่อร่างกายจริงหรือ ? กินแล้วจะไม่ทำให้อ้วนหรือ ? ซึ่งน้ำมันปลา (Fish Oil) นี้แตกต่างจากน้ำมันพืช หรือน้ำมันที่ได้จากสัตว์อื่นๆ เพราะน้ำมันปลาเป็นกรดไขมันจำเป็นต่อร่างกายที่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้ เรียกว่า กรดไขมันโอเมก้า-3 (Omega-3) ซึ่งโอเมก้า-3 ที่พบในน้ำมันปลามี 2 ชนิด คือ
- ไอโคซาเพนทาอีโนอิก แอซิด (Eicosapentaenoic Acid หรือ EPA) สามารถช่วยลดไตรกรีเซอไรด์ในเลือด ลดคอเลสเตอรอลชนิดเลว (LDL Cholesterol) ในเลือด ป้องกันการอุดตันของเส้นเลือด ป้องกันการเกาะตัวของเกร็ดเลือดซึ่งเป็นสาเหตุหลักของโรคหลอดเลือดสมองตีบตันและหัวใจขาดเลือด จึงลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ
- โคซาเฮกซาอีโนอิก แอซิด (Docosahexaenoic Acid หรือ DHA) หลายๆคนน่าจะเคยได้ยินในชื่อ DHA เป็นกรดไขมันที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของสมองและดวงตา ซึ่ง DHA ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการทางสมอง การเรียนรู้ ความจำ การศึกษาทางคลีนิกพบว่า DHA มีส่วนในการพัฒนาสมองและการมองเห็น จึงมีการแนะนำให้คุณแม่ตั้งครรภ์และให้นมบุตรควรได้รับ DHA 200-300 มิลลิกรัมต่อวัน เพราะมีประโยชน์ต่อการพัฒนาสมอง โดยเฉพาะช่วงที่กำลังสร้างเซลล์สมองในทารกและในเด็ก ดังนั้น การที่เด็กๆควรได้รับ DHA ในปริมาณที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญต่อการพัฒนาการต่างๆด้วยเช่นกัน
คริลล์ออย (Krill Oil)
คริลล์ออย ชื่อนี้อาจจะยังไม่คุ้นหูเท่าไหร่ แต่จริงๆแล้วคริลล์ออยเป็นน้ำมันที่มีประโยชน์ต่อร่างกายรวมถึงสมองมากกว่าน้ำมันชนิดอื่นๆมาก ซึ่งคริลล์ คือ สัตว์ทะเลขนาดเล็กในกลุ่มเดียวกับกุ้งขนาดเล็ก (Crustaceans) อาศัยอยู่ใต้ทะเลลึกของมหาสมุทรแอนตาร์กติกในขั้วโลกใต้ ซึ่งเป็นอาหารของปลาทะเลและสัตว์น้ำขนาดใหญ่ ส่วนน้ำมันคริลล์ออย เป็นน้ำมันที่สกัดได้จากสัตว์ทะเลขนาดเล็กในกลุ่มเดียวกับกุ้งขนาดเล็ก (Crustaceans) ซึ่งในทางอุตสาหกรรมได้มีการนำคริลล์มาสกัดเป็นน้ำมัน และใช้ในการบำรุงสุขภาพร่างกาย เพราะในคริลล์ออยมีสารหลัก 4 ชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
1. ฟอสโฟลิพิด (phospholipid) คือ ลิพิด ซึ่งเกิดจากการรวมตัวของกลีเซอรอล1 โมเลกุล ของกรดไขมัน 2 โมเลกุล และกรดฟอสฟอริก 1 โมเลกุล ในโมเลกุลมีทั้งส่วนที่ชอบน้ำ (hydrophilic) และไม่ชอบน้ำ (hydrophobic) สามารถใช้เป็นอิมัลซิไฟเออร์ (emulsifier) พบมากในเยื่อหุ้มเซลล์ของร่างกาย
✔ สำคัญต่อการสร้างเยื่อหุ้มเซลล์ (Cell Membrane)
✔ เยื่อหุ้มเซลล์ คือ โครงสร้างของเซลล์ รวมถึงการยึดเกาะของเซลล์ต่างๆ ให้กลายเป็นโครงสร้างเนื้อเยื่อที่แข็งแรง
✔ ฟอสโฟลิพิดที่อยู่ในคริลล์จะผูกติดอยู่กับ Omega 3 จึงทำให้สามารถแทรกผ่านเยื่อหุ้มเซลล์เพื่อเข้าสู่ระบบต่างๆ ในร่างกายได้รวดเร็วกว่าโอเมก้า-3 ทั่วไป
2. Omega-3 ( EPA & DHA) แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ
EPA (Eicosapentaenoic Acid)
- ช่วยลดไขมันชนิดเลว LDL และไตรกลีเซอไรด์
- ลดการสะสมของไขมันที่ผนังหลอดเลือด อันเป็นต้นเหตุสำคัญของโรคหลอดเลือดอุดตัน
DHA (Docosahexaenoic Acid)
- ส่งเสริมการทำงานของระบบประสาทและสมอง
- เพิ่มประสิทธิภาพในการคิดและจดจำ
- ชะลอความเสื่อมของระบบประสาทและสมอง
- เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของ เรตินาในดวงตา
3. แอสต้าแซนทิน (Astaxanthin)
- เป็นรงควัตถุสีแดงที่พบได้ในสัตว์ทะเลกลุ่ม Crustaceans
- เป็นสารในกลุ่มแคโรทีนอยด์
- มีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระสูงมาก จนได้ชื่อว่าเป็น Super antioxidant
- มีฤทธิ์ป้องกันการทำลายจากอนุมูลอิสระ ทั้งส่วนที่เป็นน้ำและน้ำมัน
- เป็นสารที่ช่วยรักษาคุณสมบัติของ Omega-3 ให้คงอยู่นานขึ้น ไม่เหม็นหืนเมื่อเวลาผ่านไป
4. โคลีน (Choline) เป็นอีกหนึ่งส่วนประกอบที่สำคัญที่พบใน น้ำมันคริลล์ มีหน้าที่สำคัญมากสำหรับการทำงานของสมองเช่น ช่วยให้การทำงานของสารสื่อประสาท และการรับส่งสัญญาณในสมองมีประสิทธิภาพมากขึ้น
แปะก๊วย (Ginkgo)
แปะก๊วยมีสรรพคุณด้านเพิ่มความจำ โดยจะช่วยไปยับยั้งอะซิทิลโคลีนเอสเตอเรล (Acetylcholinesterase) ซึ่งเป็นสารที่ทำลายสารสื่อประสาทเมื่อเซลล์ประสาทจะส่งสัญญานถึงกัน พบว่า ผู้ป่วยอัลไซเมอร์ คนชรา คนที่มีความจำไม่ดี จะมีอะซิทิลโคลีนเอสเตอเรสมาก คือมีตัวทำลายสารสื่อประสาทมากนั่นเอง ส่งผลให้เซลล์ประสาทไม่สามารถติดต่อกันได้ทำให้เกิดการหลงลืม
ติดตามเคล็ดลับดีๆเกี่ยวกับสุขภาพและไลฟ์สไตล์ได้ที่ https://www.facebook.com/healthyclub.by.biopharm/
ปรึกษาปัญหาสุขภาพกับ Biopharm ทาง Line Official : @biopharm